This is default featured slide 1 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 2 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 3 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 4 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 5 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

วันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2563

วิตามินช่วยในการนอนหลับ

 

วิตามินช่วยในการนอนหลับ

การนอนหลับพักผ่อนยามค่ำคืนในเวลาที่พอควรเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นเหมือนการเติมพลังงานให้แก่ร่างกาย แต่บางท่านอาจมีอาการนอนไม่หลับเกิดขึ้นได้ ซึ่งก็มาจากหลายสาเหตุ และเป็นกันได้กับคนทุกช่วงวัยโดยเฉพาะใน คนชรา ซึ่งอาการจะมีทั้งแบบ หลับยาก หลับๆ ตื่นๆ บางคนอาจจะนอนไม่หลับเลยเป็นเวลา 1-2 วัน แต่ไม่ว่าจะเกิดขึ้นด้วยสาเหตุใดก็ตามจะส่งผลต่อสุขภาพอนามัยร่างกายของเราโดยตรง เพราะการนอนหลับพักผ่อนในช่วงเวลากลางคืนจะเป็นเวลาที่ร่างกายเข้าไปฟื้นฟูส่วนที่สึกหรอ เป็นกระบวนการทางกายภาพ ซึ่งบางครั้งเราจะเรียกว่าเวลาชีวิต การนอนหลับจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสิ่งมีชีวิตทุกชนิดไม่ใช่เพียงแค่มนุษย์เท่านั้น และอาการนอนไม่หลับส่วนมากจะมีต้นเหตุมาจากสิ่งต่างๆ เหล่านี้

1. ความเครียด
เมื่อเกิดความเครียด คนส่วนใหญ่จะรู้สึกวิตกกังวลอยู่ตลอดเวลา ทำให้สมองทำงานหนักกว่าปกติ และหลั่งสารบางชนิดออกมา ที่มีผลทำให้นอนไม่หลับ วิธีแก้ก็คือให้หยุดคิดถ้าทำไม่ได้ให้เปลี่ยนอิริยาบถ หากิจกรรมที่ช่วยทำให้รู้สึกเพลิดเพลิน หรือปรับทุกข์ปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้ที่ไว้ใจได้ ก็จะช่วยให้ความเครียดลดน้อยลง นอกจากนี้ความเครียดมักเป็นสาเหตุให้คุณฝันร้ายและมักสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก ใครเป็นแบบนี้ในตอนเช้าจะมีอาการง่วงเหงาหาวนอนตลอดทั้งวัน เพราะนอนหลับไม่สนิทนั่นเอง

2. อาการเจ็บป่วย
โรคบางชนิดก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ป่วยนอนไม่หลับได้เช่นกัน อาทิ โรคหัวใจ โรคซึมเศร้า โรคภูมิแพ้ หอบหืด โรคไบโพล่าร์ โรคกรดไหลย้อน อาการไอ และโรคมะเร็ง เป็นต้น สำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคเหล่านี้และประสบปัญหานอนไม่หลับ ควรปรึกษาคุณหมอเพื่อหาแนวทางในการรักษาต่อไป เพราะถ้าคุณยิ่งนอนไม่หลับอาการของโรคมักจะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น

3. เครื่องดื่มบางอย่าง
โดยเฉพาะเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และคาเฟอีน เช่น เหล้า เบียร์ ไวน์ ชา กาแฟ น้ำอัดลม เพราะสารเหล่านี้ในเครื่องดื่มจะไปกระตุ้นการทำงานของหัวใจ จึงทำให้เรารู้สึกตื่นตัวและนอนไม่หลับ เหมือนในช่วงเช้าที่หลายคนมักชอบรับประทานกาแฟเพื่อให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น กระชุ่มกระชวย พร้อมสำหรับการทำงาน ดังนั้นก่อนเข้านอนจึงควรหลีกเลี่ยงโดยเด็ดขาด

4. สภาพแวดล้อม
การจะนอนให้หลับสนิทสิ่งแวดล้อมก็มีส่วนสำคัญไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของเสียง อากาศที่ร้อนหรือหนาวจนเกินไป แสงสว่างภายในห้อง รวมไปถึงบรรยากาศอื่นๆ จะส่งผลต่อการนอนด้วยกันทั้งสิ้น สภาพแวดล้อมที่เหมาะสำหรับการนอน ต้องไม่มีเสียงดังรบกวน อากาศถ่ายเทสะดวก อุณหภูมิปกติไม่ร้อนและหนาวเกินไป ภายในห้องนอนควรสะอาดมีกลิ่นสดชื่น ก็จะช่วยให้คุณหลับสนิทได้อย่างเต็มที่ เพื่อตื่นขึ้นมารับวันใหม่อย่างสดใส

5. อายุเพิ่มขึ้น
เซลล์ต่างๆ จะเริ่มทำงานทดถอยและเสื่อมสภาพลง จึงส่งผลให้มีอาการนอนไม่หลับเกิดขึ้นได้ แต่ก็มีผู้สูงอายุบางท่านที่มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงและนอนหลับสนิท ดังนั้นถ้าใครไม่อยากให้เกิดโรคนอนหลับเมื่อเข้าสู่ช่วงวัยชรา เราจึงควรใส่ใจในเรื่องของสุขภาพตั้งแต่อายุยังน้อย ไม่ว่าจะเป็นเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ตรวจสุขภาพร่างกายเป็นประจำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ก็จะช่วยให้คุณห่างไกลจากโรคและมีร่างกายที่แข็งแรง

6. การใช้ยาบางประเภท
ที่มีผลต่อการทำงานของประสาทส่วนกลาง เช่น ยาที่ช่วยให้จมูกโล่ง ยาที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ยาขยายหลอดลม ยารักษาอาการโรคลมชัก และยาต้านอาการซึมเศร้า เป็นต้น สำหรับผู้ที่ใช้ยาดังที่กล่าวมา แล้วเกิดปัญหานอนไม่หลับควรปรึกษาแพทย์ และห้ามซื้อยานอนหลับมาทานเองอย่างเด็ดขาด เพราะอาจส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพ นอกจากนี้อาจทำให้ทุกครั้งที่นอนต้องพึ่งยาไปตลอด ที่สำคัญถ้ากินเป็นเวลานานอาจดื้อยา และเกิดปัญหานอนไม่หลับตามมาเช่นเดิม

7. เจ็ตแล็ก (Jet Lag)
อาการนอนไม่หลับที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราวหรือในระยะเวลาอันสั้น และจะเป็นเฉพาะกับผู้ที่ต้องที่เดินทางข้ามเขตเวลาโลกเท่านั้น เพราะร่างกายมักปรับตัวไม่ทันจึงทำให้นอนหลับยาก รู้สึกอ่อนเพลีย รวมทั้งอาจมีอาการปวดหัว วิเวียนศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว อาการท้องผูก ท้องเสีย อาหารไม่ย่อย และหงุดหงิด ร่วมด้วย อาการจะเริ่มดีขึ้นเมื่อผ่านไป 1-2 วัน แต่บางคนอาจจะต้องใช้เวลานานกว่านั้นขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของสุขภาพร่างกาย ซึ่งอาจส่งผลต่อการติดต่องานหรือเดินทางท่องเที่ยวได้

8. ฮอร์โมนในร่างกาย
ในช่วงที่เกิดการแปรเปลี่ยนของฮอร์โมนก็มักจะส่งให้เกิดอาการนอนไม่หลับได้เช่นกัน โดยเฉพาะในเพศหญิง ช่วงมีประจำเดือน การตั้งครรภ์ในระยะแรก และในช่วงวัยทอง ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย แต่เมื่อพ้นจากช่วงนี้ไปแล้วร่างกายจะกลับมาทำงานได้ปกติ

9. ความอ้วน
โดยมากแล้วคนอ้วนจะมีสรีระโครงสร้างของร่างกายแตกต่างไปจากคนทั่วไป ซึ่งจะมีใบหน้าและคางสั้น ทำให้ระบบทางเดินหายใจบริเวณโคนลิ้นและช่องปากหย่อนคล้อย เวลาหลับจึงมักได้ยินเสียงกรนและมีอาการหายใจไม่สะดวก เป็นเหตุให้ต้องตื่นขึ้นมากลางดึก ที่สำคัญถ้าปล่อยไว้อาการอาจจะทรุดหนักถึงขั้นหยุดหายใจขณะหลับและถึงแก่ชีวิตได้  ดังนั้นถ้าเริ่มรู้สึกว่าน้ำหนักตัวมากกว่าปกติและนอนกรนควรหาวิธีควบคุมน้ำหนัก

ยังมีอีกหลายสาเหตุที่ทำให้คุณเกิดอาการนอนไม่หลับ และส่งผลต่อสุขภาพร่างกายของเรา ดังนั้นใครที่กำลังเกิดปัญหานี้อยู่ควรหาวิธีการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ ก็จะช่วยให้คุณกลับมาหลับสนิทได้ดังเดิม

 

ถ้าพูดถึงสมุนไพรแล้วหลายคนคงจะนึกถึงสมุนไพรไทยอย่าง ขมิ้น ว่าน หรือสมุนไพรที่เราชินหูกัน วันนี้จะพาไปรู้จักกับสมุนไพรจีนที่มีมาอย่างยาวนานหลายพันปี ในภาษาจีนเรียกพืชชนิดนี้ว่า ตังถังเช่า และมีชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า Cordyceps sinesis  ซึ่งสมุนไพรตัวนี้เป็นการผสมกันโดยไม่ตั้งใจระหว่างพืชกับสัตว์  โดยสัตว์ในที่นี้ก็คือหนอนผีเสื้อ  Hepialus armoricanus Oberthiir กับพืชที่เป็นเห็ดชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า Cordyceps Sinensis ซึ่งเป็นเชื้อรา พอเชื้อราโตมาก็กลายเป็นเห็ดจะแผ่ขยายไปตามเทือกเขาหิมาลัยซึ่งมีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 10,000-15,000 ฟุต ความยาวของเทือกเขาหิมาลัยนี้ก็ไล่ไปตั้งแต่ภูฎาน เมืองจีน ทิเบต เนปาล เมื่อเชื้อราเห็ดที่อยู่บนดินก็ถูกหนอนผีเสื้อกินเข้าไป หนอนก็มีเชื้อราเห็ดตัวนี้อยู่ร่างกาย  ในฤดูหนาวซึ่งมีอากาศหนาวเย็นมากหนอนจะไชดินลงไปเพื่อจำศีล บางตัวไม่มีอาหารเพียงพอก็ตายไปในที่สุด ซึ่งก่อนที่หนอนจะตายกระบวนการทำงานของร่างกายและสมองของหนอนนี้จะถูกควบคุมด้วยเชื้อราของเห็ดที่ว่านี้  เชื้อราเห็ดจะบังคับการทำงานของสมองหนอนให้ขึ้นมาเหนือดินและตายลงไปในที่สุด หลังจากนั้นเห็ดจะกินหนอนเป็นอาหารตลอดช่วงฤดูหนาวอันยาวนานนี้ พอหน้าร้อนมาเยือนอีกครั้งเห็ดก็จะงอกต้นหญ้าขึ้นและกลายเป็นถั่งเช่าไปในที่สุด ซึ่งนับว่าเป็นสมุนไพรที่มีความอัศจรรย์ตั้งแต่กระบวนการเกิดเลยที่เดียว

การรับปะทานถั่งเช่าเพื่อประโยชน์ด้านการแพทย์นั้นมีมานานนับพันๆ ปี ในบรรดาสมุนไพรจีนทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นเห็ดหลินจือ เขากวางหรืออะไรก็ตามแต่ แต่ถั่งเช่าก็เป็นจักรพรรด์เบอร์หนึ่งมาตลอด เพราะว่าอุดมไปด้วยสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ โดยพบว่า ในถั่งเช่ามีองค์ประกอบทางเคมีที่สำคัญชื่อว่าสารแมนนิทอล หรือกรดคอร์ดิเซปิกเอซิค มีสารคอร์ดิเซปีนที่เป็นอนุพันธ์ของสารอะดีโนซีน นอกจากนี้ยังมีโพลีแซคคาไรด์และนิวคลิโอไซด์ โปรตีน พอลีแซกคาไรด์ ไขมันคอเลสเตอรอล วิตามินแลแร่ธาตุอีกด้วย ซึ่งสรรพคุณต่างๆ ส่งผลดีต่อร่างกาย โดยคุณประโยชน์ของถั่งเช่าได้แก่


1. ช่วยลดน้ำตาลในเลือด เนื่องจากเป็นตัวช่วยในการทำงานของอินซูลินในเลือด 

2.เพิ่มศักยภาพการทำงานของไต ทำให้ผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานมีระดับน้ำตาลลดลง เพิ่มเบต้าเซลล์ในตับอ่อน การทำงานของไตก็จะดีขึ้นด้วย 

3. บำรุงกำลังวังชา จากสรรพคุณในการออกฤทธิ์ของโพลีแซคคาไรด์ นิวคลิโอไซด์ และโปรตีนอีกหลาย ๆ ตัวนี้จะช่วยให้ร่างกายฟอกออกซิเจนได้มากขึ้น ทำให้เม็ดเลือดแดงเยอะ เพิ่มการขนส่งออกซิเจนไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ทำให้เหนื่อยง่าย มีกำลังวังชามากยิขึ้่งขึ้น 

4.เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ ถั่งเช่าได้ชื่อว่าเป็น ไวอากร้าแห่งเทือกเขาหิมาลัย ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศได้อย่างดีและช่วยเพิ่มจำนวนสเปิร์มได้ถึง 300 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ถั่งเช่ายังช่วยเพิ่มอารมณ์ทางเพศให้กับผู้ชายและผู้หญิงได้อีกด้วย เนื่องจากถั่งเช่าเข้าไปขยายหลอดเลือดให้สูบฉีดดีขึ้น ส่งผลให้ประสิทธอภาพการทำงานของร่างกายดีขึ้น

5.เพิ่มเซลล์เม็ดเลือดขาวในการต่อสู้กับเซลล์มะเร็งในร่างกาย ประสิทธิภาพที่่สูงที่สุดของถั่งเช่าคือ การช่วยเพิ่มเม็ดเลือดขาวหน่วยเพชรฆาตที่มีชื่อว่า Natural killer Cell  คือการป้องกันเซลล์มะเร็งเนื่องจากเซลล์เม็ดเลือดขาวสามารถฆ่าเชื้อเซลล์มะเร็งได้เร็วกว่าเดิม 

6.ช่วยทำให้จิตใจสงบ นอหลับดี เพิ่มฮอร์โมนในการเจริญเติบโต ช่วยชะลอความแก่ชรา

7. ช่วยบรรเทาอาการไตเสื่อม ไตอักเสบเรื้อรัง คนไข้โรคไตวายเรื้อรังมีอาการดีขึ้นจากการรับประทานถั่งเช่าติดต่อกัรเป็นเวลา 1 เดือน

8.ลดความเสี่ยงเรื่องการอุดตัน ถั่งเช่าช่วยปรับสมดุลคอเลสเตอรอลในเลือด โดยเป็นตัวช่วยในการลดไขมัน LDL  ลง และเพิ่มจำนวนไขมัน DHLขึ้น  ต่อต้านการเกิดไขมันแข็งจากกระบวนการออกซิไดซ์โดยสารอนุมูลอิสระ

โรคไมเกรน


 

โรคไมเกรน (MIGRAINE) ความจริงไม่น่าจะจัดว่าเป็นโรคแต่อย่างใด เพราะเป็นภาวะที่หลอดเลือดแดงในสมองบีบตัวและคลายตัวมากกว่าปกติ ในคนปกติหลอดเลือดแดงเหล่านี้มีอยู่มากมายในสมองจะมีการบีบตัวและคลายตัวอยู่เป็นประจำ แต่ไม่มากจึงไม่ปวดหัว ในผู้ปวดไมเกรน (MIGRAINE) จะไม่พบพยาธิใดๆ ในหลอดเลือดแดงของสมองจึงไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดอัมพาตหรือพิการแต่อย่างใด

ในแพทย์แผนไทย ไมเกรนหรือโรคปวดศีรษะข้างเดียว เกิดจากความผิดปกติของลม เรียกว่า ลมปะกัง, ตะกัง ผู้ป่วยมีอาการปวดศีรษะมาก อาจจะปวดข้างเดียวหรือสองข้างก็ได้ ผู้ป่วยอาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ตาพร่า วิงเวียน อาเจียน โรคไมเกรน จะมีอาการปวดศีรษะงาน 4-7 ชั่วโมงนอกจากนี้ ก่อนเกิดอาการปวดศรีษะจะมีอาการผิดปกติทางสายตาเช่น เห็นจุดสีดำ เห็ดแสงระยิบระยับ ตาจะมึดลง เห็นภาพขนาดภาพเพียงครึ่งเดียวมองเห็นเป็นเส้นคลื่นก่อนจะปวดอีกประมาณ 1 ชั่วโมง

อาการของโรคไมเกรน

ปวดศีรษะครึ่งซีก อาจป็นบริเวณขมับหรือท้ายทอย แต่บางครั้งก็อาจเป็นสองข้างพร้อมกันหรือเป็นสลับข้างกันได้
ลักษณะการปวดศีรษะส่วนมากจะปวดตุ๊บๆ นานๆครั้งหรึอเกิน20นาที (ยกเว้นจะได้รับประทานยา) แต่บางครั้งถ้าเป็นรุนแรง อาจปวดนานเป็นวันๆหรือสัปดาห์ก็ได้ผู้ป่วยบางรายอาจมีปวดตื้อๆสลับกับปวดตุ๊บๆในสมองก็ได้
อาการปวดศีรษะมักรุนแรง และส่วนมากจะมีการคลื่นไส้ หรืออาเจียนร่วมด้วยเสมอ โดยอาจเป็นขณะปวดศีรษะ ก่อนหรือหลังปวดศีรษะก็ได้ บางรายมีอาการคลื่นไส้อาเจียนมากจนรับประทานอะไรไม่ได้
อาการนำจะเป็นอาการทางสายตา โดยจะมีอาการนำมาก่อนปวดศีรษะราว 10-20 นาที เช่น เห็นแสงเป็นเส้นๆ ระยิบระยับ แสงจ้าสะท้อน หรือเห็นภาพบิดเบี้ยวนำมาก่อน

ปัจจัยเสี่ยงและสาเหตุของโรคไมเกรน

- สิ่งแวดล้อมก็สามารถกระตุ้นให้เกิดอาการปวดศีรษะ เช่น อากาศร้อนจัด หนาวจัด
- ระดับฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงก็สามารถทำให้เกิดอาการปวดศีรษะได้ เช่นช่วงที่มีประจำเดือนรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิด ขณะตั้งครรภ์
- อาหารบางชนิดส่งเสริมให้เกิดไมเกรนได้ เช่น คาเฟอีน ผงชูรส ช็อกโกแลต Alcohol
- สภาพร่างกายที่อาจเกิดอาการไมเกรนได้เช่น นอนไม่เพียงพอ เครียดวิตกกังวลทำงานหนักมากเกินไป


การรักษาไมเกรนแบ่งออก

1.รักษาแบบเฉียบพลัน ในแพทย์แผนปัจจุบันมักจะให้ยาแก้ปวดชนิดแรงซึ่งมีผลเสียต่อไตอย่างมาก แล้วอาการปวดศรีษะไม่ได้หายสักทีเดียว แต่สำหรับแพทย์แผนไทยแล้วอาการปวดไมเกรนชนิดเฉียพลันแก้ได้ง่ายมากๆ ด้วยยาหอม ที่มีสรรพคุณ แก้ลมกองละเอียดซึ่งยาหอมทั่วไปมักมีสรรพคุณด้านนี้อยู่แล้ว แอดมินยื่นยันว่า ถ้าอาการไมเกรนกำลังจะถามหา มีอาการผิกปกติให้รีบชงยาหอมกิน อาการปวดศรีษะจะหายไปภายในไม่เกิน 15นาที

2.ป้องกันการเกิดไมเกรน เราสามารถป้องกันการเกิดไมเกรนได้ด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่นน้ำมากๆ แต่ถ้าผู้ป่วยโรคไมเกรนมีอาการป่วยเดือนนึงมากก 3-4 ครั้งแนะนำให้ทาแปะก๊วยผสมถั่งเช่า ซึ่งช่วยในเรื่องระบบไหลเวียนโลหิต ช่วยลดความข้นของเลือด ให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้ดีขึ้น และยังช่วยลดความเครียด ช่วยผ่อนคลายจากการทำงานหนักได้อีกด้วย

 


ถั่งเช่าถือเป็นจักรพรรด์ด้านสมุนไพรจีนมากนานกว่า 4,000 ปี มีบันทึกถึงสรรพคุรถั่งเช่าเพื่อประโยชน์การแพทย์มากมายหลายตำราถั่งเช่ายังถือเป็นราชาสมุนไพรจีนที่ดีที่สุดอีกด้วย ถั่งเช่าอุดมไปด้วยสารออกฤทธิ์ทายามากกว่า 100 ชนิด เช่น สารคอร์ไดเซปิน สารอะดีโนซีน โพลีแซคคาไรด์  วิตามินและแร่ธาตุจำนวนมากอีกด้วย ซึ่งสรรพคุณต่างๆ ส่งผลดีต่อร่างกาย โดยคุณประโยชน์ของถั่งเช่าหลักๆ ได้แก่

1.ถั่งเช่าถือเป็นพระเอกด้านบำรุงไต ซึ่งในปัจจุบันไม่มียาแผนปัจุบันใดๆ ที่มีสรรพคุณด้านบำรุงไต ทานยาแผนปัจจุบันยื่นทำให้ไตเสื่อมมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งถั่งเช่าเป็นยาบำรุงไตมาหลายพันปี ช่วยเพิ่มความสามารถการทำงานของไต ลดความข้นของเลือดทำให้เลือดไปฟอกที่ไตได้ดีขึ้น

2.ทำให้ผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานมีระดับน้ำตาลลดลง ช่วยลดน้ำตาลในเลือด ช่วยกระตุ้นการทำงานของอินซูลินในเลือดเพื่อควบคุมน้ำตาลในเลือด

3. บำรุงกำลัง ลดอาการเหนื่อยล้าจากสรรพคุณในการออกฤทธิ์ของโพลีแซคคาไรด์ นิวคลิโอไซด์ และโปรตีนอีกหลาย ๆ ตัวนี้จะช่วยให้ร่างกายฟอกออกซิเจนได้มากขึ้น ทำให้เม็ดเลือดแดงเยอะ เพิ่มการขนส่งออกซิเจนไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ทำให้เหนื่อยง่าย มีกำลังวังชามากยิขึ้่งขึ้น

4.เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ ถั่งเช่าได้ชื่อว่าเป็น ไวอากร้าแห่งเทือกเขาหิมาลัย ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศได้อย่างดีและช่วยเพิ่มจำนวนสเปิร์มได้ถึง 300 เปอร์เซ็นต์ ยิ่งไปกว่านี้ถั่งเช่ายังช่วยเพิ่มอารมณ์ทางเพศให้กับผู้ชายและผู้หญิงได้อีกด้วย เนื่องจากถั่งเช่าเข้าไปขยายหลอดเลือดให้สูบฉีดดีขึ้น ส่งผลให้ประสิทธอภาพการทำงานของร่างกายดีขึ้น

5.เพิ่มเซลล์เม็ดเลือดขาวในการต่อสู้กับเซลล์มะเร็งในร่างกาย ศักยภาพที่่สูงที่สุดของถั่งเช่าคือ การช่วยเพิ่มเม็ดเลือดขาวหน่วยเพชรฆาตที่มีชื่อว่า Natural killer Cell คือการป้องกันเซลล์มะเร็งเนื่องจากเซลล์เม็ดเลือดขาวสามารถฆ่าเชื้อเซลล์มะเร็งได้เร็วกว่าเดิม

6.ช่วยทำให้จิตใจสงบ นอหลับดี เพิ่มฮอร์โมนในการเจริญเติบโต ช่วยชะลอความแก่ชรา
7. ช่วยบรรเทาอาการไตเสื่อม ไตอักเสบเรื้อรัง คนไข้โรคไตวายเรื้อรังมีอาการดีขึ้นจากการรับประทานถั่งเช่าติดต่อกัรเป็นเวลา 1 เดือน

8.ลดความเสี่ยงเรื่องการอุดตัน ถั่งเช่าช่วยปรับสมดุลคอเลสเตอรอลในเลือด โดยเป็นตัวช่วยในการลดไขมัน LDL ลง และเพิ่มจำนวนไขมัน DHLขึ้น ต่อต้านการเกิดไขมันแข็งจากกระบวนการออกซิไดซ์โดยสารอนุมูลอิสระ

อย่างไรก็ตามถ้าากต้องการให้ถั่งเช่าออกฤทธิ์ได้ดีขึ้นแนะให้ทานคู่กับเห็ดหลินจือสกัดจะช่วยให้ถั่งเช่ามีสรรพคุณทางยาได้ดีขึ้น สนใจดูรายละเอียดได้ที่ >> ถั่งเช่า